1. เทคโนโลยี HSDPA (High Speed Downlink Packet Access) เป็นเทคโนโลยีสื่อสารไร้สายที่นับเป็นวิวัฒนาการขั้นถัดมาจากเครือข่าย W-CDMA อันเป็นมาตรฐาน 3G จากค่ายยุโรป ซึ่งมีส่วนแบ่งทางการตลาดสูงกว่าเทคโนโลยี cdma2000 ซึ่งเป็นมาตรฐาน 3G จากค่ายสหรัฐอเมริกา เป็นที่ทราบกันดีว่าอัตราเร็วในการรับส่งข้อมูลของมาตรฐาน W-CDMA มาตรฐานนั้นถูกจำกัดอยู่ที่ 384 กิโลบิตต่อวินาที องค์กร 3GPP (Third Generation Partnership Program) ซึ่งเป็นผู้วางข้อกำหนดมาตรฐานของเครือข่าย W-CDMA จึงกำหนดให้มีการพัฒนารูปแบบการรับส่งข้อมูลทางคลื่นวิทยุของอุปกรณ์สถานีฐาน W-CDMA ซึ่งมีชื่อเรียกสถานีฐานนั้นว่า Node B ด้วยการนำเทคโนโลยีการมอดูเลตสัญญาณ และการเข้ารหัสข้อมูลแบบใหม่ เพื่อช่วยทำให้อัตราเร็วในการส่งข้อมูลจาก Node B มายังเครื่องลูกข่ายสื่อสารไร้สาย เพิ่มขึ้นเป็น 14 เมกะบิตต่อวินาที ในขณะที่การส่งข้อมูลกลับจากอุปกรณ์สื่อสารไร้สายไปยัง Node B ยังคงใช้อัตราเร็ว 384 กิโลบิตต่อวินาที ซึ่งว่าเพียงพอและสอดคล้องกับพฤติกรรมการใช้บริการสื่อสารข้อมูลแบบบรอดแบนด์ที่ผู้ใช้งานส่วนใหญ่มีการดาวน์โหลดข้อมูลจากเครือข่ายมากกว่าการส่งข้อมูลย้อนกลับไป อย่างไรก็ตาม ภายใน พ.ศ. 2550 เครือข่าย W-CDMA ที่มีการเปิดใช้เทคโนโลยี HSDPA นี้ ก็จะมีการพัฒนาต่อไปเป็นเครือข่ายแบบ HSUPA (High Speed Uplink Packet Access) ซึ่งมีผลทำให้อัตราเร็วในการรับและส่งข้อมูลระหว่างอุปกรณ์สื่อสารไร้สายและ Node B มีค่า 14 กิโลบิตต่อวินาทีเท่ากัน รูปที่ 6 แสดงให้เห็นถึงขีดความสามารถของเทคโนโลยี HSDPA กับความเร็วในการดาวน์โหลดข้อมูลเมื่อเปรียบเทียบกับเทคโนโลยีโทรศัพท์เคลื่อนที่อื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นการรับส่งข้อมูลขนาดเล็ก เช่น ไฟล์รูปภาพที่ถ่ายจากกล้องดิจิตอลภายในตัวเครื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่เอง ไปจนถึงการรับส่งข้อมูลขนาดใหญ่เช่น Video Clip หรือไฟล์ข้อมูลจากโปรแกรม Microsoft Office ต่าง ๆ โดยการเปรียบเทียบนั้นทำบนพื้นฐานแห่งความเป็นจริงเมื่อคิดว่าเครือข่าย HSDPA ซึ่งรองรับการส่งข้อมูลด้วยอัตราเร็ว 14 เมกะบิตต่อวินาทีนั้น เมื่อคิดคำนวณเป็นค่าความเร็วเฉลี่ยที่ผู้ใช้บริการรายหนึ่งพึงใช้ได้ในกรณีที่มีผู้ใช้งานพร้อม ๆ กันหลายคน ก็น่าจะได้ความเร็วที่ประมาณ 2 เมกะบิตต่อวินาที รูปที่ 6 ความเร็วในการรับส่งข้อมูลผ่านเครือข่าย HSDPAเปรียบเทียบกับมาตรฐานโทรศัพท์เคลื่อนที่ชนิดอื่น ๆ ที่มา (ไพรัตน์ ยิ้มวิลัย, 2548) ในมุมมองของผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ W-CDMA การเปิดให้บริการ BWA โดยพัฒนาเครือข่ายของตนให้รองรับเทคโนโลยี HSDPA เป็นเรื่องที่ง่ายและใช้ต้นทุนต่ำมาก เพราะไม่มีการเปลี่ยนแปลงอุปกรณ์ Node B แต่อย่างใด การพัฒนาเป็นเพียงการปรับเปลี่ยนซอฟท์แวร์ควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ Node B เท่า
บทสรุปของเทคโนโลยี 3G ความสามารถในการให้บริการในรูปแบบต่าง ๆ ได้ และการมีตัวเครื่องลูกข่ายออกมาขายโดยเร็วนั้นถือว่าเป็นปัจจัยหลักที่จะ เป็นทางรอดของผู้ให้บริการ ผู้ขายที่ให้ความสำคัญกับการรวม 2G และ 3G บนลูกข่ายเดียวกันนั้น มีแนวโน้มว่าจะกลายมาเป็นผู้นำตลาดในช่วงปลายทศวรรษนี้การลงทุนที่ต่ำในโครงสร้างพื้นฐานนั้นจะช่วยในการคุ้มทุนที่รวดเร็ว และมีประโยชน์ในด้านต่าง ๆ กับผู้ให้บริการ ในขณะที่ผู้ขายตัวลูกข่าย หรืออุปกรณ์นั้น ก็จะต้องให้ความสำคัญกับการผลิตที่ต้นทุนต่ำ และสามารถใช้บริการได้อย่างกว้างขวาง เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้ใช้ ทั้งในรูปแบบของใช้งานส่วนตัวและใช้งานธุรกิจ ด้วยเหตุนี้การค่อย ๆ พัฒนาจึงดูเหมือนว่าจะเป็นวิธีเดียวที่จะช่วยให้สามารถเข้าสู่ตลาดได้ก่อน และมีต้นทุนต่ำที่สุดโอกาสในการนำเสนอการให้บริการในยุคของ 3Gรูปแบบใหม่ของการประเมินค่าเดิมทีนั้นการวัดหรือประเมินค่าความสำเร็จในธุรกิจโทรศัพท์มือถือนี้ก็คือ จำนวนผู้ใช้งาน, ความสามารถในการเข้าสู่ตลาด, และรายได้เฉลี่ยจากผู้ใช้บริการต่อหัว หรือ ARPU (Average Revenue Per User) แต่ในยุคของ 3G ตัวประเมินค่าเหล่านี้จะไม่ได้ถูกนำมาใช้เนื่องจากว่าคุณลักษณะของ 3G นั้นก็คือ การที่บริการที่ไม่ใช่เสียง (Non-Voice Services) ถูกเพิ่มเข้าไปในบริการแบบเดิมที่เป็นเสียง ดังนั้นผู้ใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่ในยุคของ 3G นั้นจะสามารถเลือกใช้งานบริการต่าง ๆ ได้อย่างมากมาย ด้วยเหตุนี้ ตัวประเมินค่าจึงไปอยู่ที่รูปแบบ หรือระดับของบริการที่มีผู้ต้องการใช้งานแทนจำนวนของผู้ใช้บริการ
ฉะนั้น ต่อไปจากนี้ จำนวนผู้ใช้บริการ กับผู้ที่สมัครเข้าใช้บริการในรูปแบบต่าง ๆ นั้นจะไม่ใช่ค่าเดียวกันอีกต่อไปรายได้จากบริการก็เช่นกัน จะมีการเปลี่ยนแปลงจากรูปแบบเดิมที่คิดตามเวลาที่เชื่อมต่อหรือเวลาใช้งาน ก็จะเปลี่ยนเป็นคิดตามปริมาณของข้อมูลที่ใช้ โดยในกรณีนี้ ผู้ที่จะมาเกี่ยวข้องในส่วนของรายได้ นอกจากผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แล้ว ก็จะเป็นผู้ให้บริการข้อมูลหรือที่เรียกว่า Content ด้วย ARPU จะลดความสำคัญลง เมื่อโลกของ 3G นั้นอยู่ใกล้กับโลกของอินเทอร์เน็ต มากกว่าโลกของการใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเดิม ๆ แต่ 3G นั้นก็ไม่ได้ต้องการจะถูกวางตำแหน่งให้เป็น Mobile Internet เพียงอย่างเดียว เนื่องจากว่ามีบริการอีกมากมายที่สามารถให้ได้ใน 3G
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น